Frequently Asked Questions

BANGKOK • Chiang Mai • PATTAYA • PHUKET

Frequently Asked Questions

🔻 ปัจจัยที่ทำให้มูลค่าบ้านลดลง

  1. ทำเลเปลี่ยนไปในทางลบ

    • โครงการสาธารณูปโภคที่ไม่เอื้อ (เช่น โรงงาน มลพิษ เสียงดัง)

    • ย่านเสื่อมโทรม หรือไม่ปลอดภัย

  2. สภาพเศรษฐกิจ

    • ภาวะถดถอย กำลังซื้อลดลง ทำให้ราคาตลาดอสังหาฯ หดตัว

  3. สภาพบ้านและอาคาร

    • บ้านทรุดโทรม ไม่ได้รับการดูแล

    • วัสดุก่อสร้างเสื่อมคุณภาพ

  4. อุปทานล้นตลาด

    • พื้นที่ที่มีคอนโด/โครงการบ้านออกใหม่จำนวนมาก แข่งขันสูง ทำให้ราคาตก

  5. การเปลี่ยนแปลงกฎหมาย/นโยบายรัฐ

    • เช่น ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเพิ่มขึ้น หรือกฎหมายผังเมืองที่จำกัดการใช้ประโยชน์ที่ดิน

  6. ปัจจัยเฉพาะพื้นที่

    • น้ำท่วมซ้ำซาก / ความเสี่ยงภัยพิบัติ

    • การคมนาคมที่เคยวางแผนไว้ไม่เกิดขึ้นจริง

  1. สภาพตัวบ้าน – วัสดุเสื่อมสภาพ ต้องซ่อมแซมหรือรีโนเวท
  2. ความนิยมของผู้ซื้อ – ส่วนใหญ่ผู้ซื้ออยากได้บ้านใหม่ที่ไม่เคยมีใครอยู่มาก่อน
  3. เทคโนโลยีและดีไซน์ – บ้านใหม่มักออกแบบทันสมัย รองรับ Smart Home หรือประหยัดพลังงาน
  4. ค่าใช้จ่ายบำรุงรักษา – บ้านเก่าอาจมีค่าใช้จ่ายซ่อมแซมมากกว่า

📈 แต่บ้านเก่าอาจมีมูลค่าเพิ่มขึ้นได้ หาก…

  • อยู่ใน ทำเลทอง (เช่น ใกล้รถไฟฟ้า ใจกลางเมือง หรือเมืองท่องเที่ยว)
  • มี ที่ดินขนาดใหญ่ ซึ่งราคาที่ดินเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
  • เป็น บ้านสไตล์หายาก เช่น บ้านโบราณ บ้านดีไซน์พิเศษที่คนตามหา

 

🏦 ประเภทของโบรกเกอร์ที่พบบ่อย

  1. โบรกเกอร์หุ้น
    • ทำหน้าที่เป็นตัวแทนในการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์
    • ได้ค่าคอมมิชชั่นจากการซื้อขายของนักลงทุน
  2. โบรกเกอร์ประกันภัย
    • แนะนำและขายกรมธรรม์ประกันจากหลายบริษัท
    • ลูกค้าได้เปรียบเทียบหลายทางเลือก โดยโบรกเกอร์จะดูแลผลประโยชน์ของผู้เอาประกัน
  3. โบรกเกอร์อสังหาริมทรัพย์
    • คนกลางที่ช่วยเจ้าของบ้าน/ที่ดินหาผู้ซื้อ หรือช่วยผู้ซื้อหาทรัพย์ที่ต้องการ
    • ได้ค่าคอมมิชชั่นจากการปิดการขายสำเร็จ
  4. โบรกเกอร์สินค้าโภคภัณฑ์ / ฟอเร็กซ์
    • ให้บริการแพลตฟอร์มซื้อขายทองคำ น้ำมัน สกุลเงิน ฯลฯ